…เผยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ The Butler…

เรื่องย่อ

The Butler

The Butler

ที่มาของภาพยนตร์เรื่อง LEE DANIEL’S THE BUTLER ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทความเรื่อง “A Butler Well Served by This Election” จากวอชิงตัน โพสต์ ในปี 2008   ซึ่งเล่าเรื่องราวชีวิตจริงของ “ยูจีน อัลเลน”  อดีตพ่อบ้านทำเนียบขาว โดย Lee Daniels  (ลี แดเนียลส์)   หยิบเรื่องราวนี้มาถ่ายทอดผ่านตัวละคร  เซซิล เกนส์ (รับบทโดยฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์)  ผู้ทำหน้าที่ระหว่างการบริหารงานของประธานาธิบดีในระหว่างปี 1957-1986

ซึ่งเป็นการติดตามเรื่องราวของตัวละคร “เซซิล” ตั้งแต่วัยเด็กในระหว่างที่เขาหลบหนีจากความโหดร้ายของดินแดนทางใต้ที่มีการแบ่งแยกชนชั้นกันอย่างรุนแรง   เพื่อมาแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า  จวบจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่  เซซิลได้เรียนรู้ทักษะล้ำค่าที่ท้ายที่สุด และทำให้เขาสามารถคว้าโอกาสทองในชีวิตด้วยการได้ รับตำแหน่งเป็นพ่อบ้านของบ้านเลขที่ 1600 เพนซิลวาเนีย อะเวนิว ซึ่งหมายถึงบ้านของประธานาธิบดีคนสำคัญของสหรัฐอเมริกานั่นเอง   เซซิลได้กลายเป็นประจักษ์พยานของเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ และกระบวนการทำงานในห้องทำงานของประธานาธิบดี ระหว่างที่เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง

ด้านชีวิตส่วนตัวของเซซิล เขามีภรรยาที่รัก คือ กลอเรีย เกนส์ (รับบทโดยโอปราห์ วินฟรีย์) และมีลูกชายอีกสองคนครอบครัวของเซซิลได้รับการเอื้อประโยชน์ให้อยู่ในชนชั้นกลางที่มีความเป็นอยู่ที่ดีต่างจากครอบครัวอื่นๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นทำงานให้กับครอบครัว “ครอบครัวหมายเลขหนึ่ง” ทำให้ครอบครัวของเซซิลเองนั้นเกิดความตึงเครียด ตัวเซซิลเองเหินห่างจากกลอเรียและมีปัญหาขัดแย้งกับหลุยส์ เกนส์ ลูกชายของเขา (รับบทโดยเดวิด โอเยลโลโอ) เซซิลจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาต่างๆที่ถาโถมเข้ามาได้อย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ใน…LEE DANIEL’S THE BUTLER

เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์

The Butler

The Butler

ในปี 2008 ระหว่างช่วงเวลาหลายสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่ บารัค โอบามา   ชนะการเลือกตั้ง วิล เฮย์กู๊ด อดีตนักข่าวต่างประเทศและนักเขียนของวอชิงตัน โพสต์ ได้ตั้งภารกิจให้กับตัวเองในการหาชาวแอฟริกัน/อเมริกัน ที่เคยทำงานในทำเนียบขาวและได้เห็นการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนจากเบื้องหลังม่าน หลังจากโทรศัพท์หลายครั้ง  เฮย์กู๊ด      ก็ค้นพบว่าคนที่เขาตามหานั้นอยู่ในวอชิงตัน ดีซี นี่เอง ชื่อของเขาคือ “ยูจีน อัลเลน” เขาอายุ 89 ปีแล้ว และเขาก็เคยทำงานภายใต้ประธานาธิบดี 8 คน   ตั้งแต่ยุค 50s จนถึง 80s   หลังจากได้พบกับ อัลเลน และ เฮเลเน ภรรยาของเขานานหลายชั่วโมง เขาก็สามารถรวบรวมข้อมูลของชายผู้มีโอกาสได้เป็นประจักษ์พยานของช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของประเทศ  รวมถึงบุรุษทรงอำนาจผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น  ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน

The Butler

The Butler

เอมี ปาสคัล ผู้อำนวยการร่วมแห่งโซนี่ พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์ เดิมได้อ่านบทสัมภาษณ์กับ อัลเลน ในวอชิงตัน โพสต์และได้นำเรื่องราวนี้ไปเสนอผู้อำนวยการสร้าง ลอร่า ซิสกิน หนังสือพิมพ์โพสต์ได้ตีพิมพ์เรื่องราวนี้ในวันศุกร์ หลังชัยชนะของ โอบามา ซิสกิน  ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง PRETTY WOMAN, AS GOOD AS IT GETS และ แฟรนไชส์ SPIDER-MAN เห็นด้วยทันทีว่าเรื่องราวของอัลเลนมีศักยภาพวิเศษสุดที่จะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แม้ว่าจะถูกทาบทามซื้อสิทธิเรื่องราวของ อัลเลน จากผู้อำนวยการสร้างคนอื่นๆ ด้วย   แต่ เฮย์กู๊ด ก็เชื่อว่าความรักและวิสัยทัศน์ที่ ซิสกิน มีต่อ   โปรเจ็กต์นี้ไม่มีใครเทียบได้และเห็นด้วยว่าพวกเขาควรจะเรี่มต้นสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

โซนี่ พิคเจอร์ส ซื้อสิทธิ์ในการสร้างโปรเจ็กต์นี้โดยมีมือเขียนบทอย่าง  แดนนี่ สตรอง รับหน้าที่สร้างเรื่องราวสมมติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทความของ เฮย์กู๊ด ขึ้นมา     แต่ท้ายที่สุด โซนี่ฯ กลับเลือกที่จะไม่เดินหน้าต่อ ซึ่งทำให้ ซิสกิน ผู้ซึ่งยังคงรักในโปรเจ็กต์นี้อยู่   กลับเดินหน้าเต็มที่เพื่อหาเงินทุนมาสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้แบบอิสระ    ในการตามหานักลงทุนที่น่าจะเป็นไปได้   เธอคิดที่จะทาบทามนักธุรกิจและผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ หรือผู้สนใจโปรเจ็กต์ศิลปะที่มีข้อคิดทางสังคมเป็นพิเศษ เช่น เชลลา จอห์นสัน ผู้ร่วมก่อตั้ง BET ท้ายที่สุดแล้วคนอื่นๆ อย่าง ไมเคิล ฟินลีย์ และ บัดดี้ แพทริค  ก็เข้ามาร่วมงานด้วย   และสุดท้ายก็มีผู้คนมากมายเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อเนรมิตทุกชีวิตให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้   โดยมีผู้สนับสนุนเงินทุนจากหลายภาคส่วนร่วมมือกันเพื่อผลักดันโปรเจ็กต์นี้ไปสู่เส้นชัย    ซึ่งรวมถึง เอิร์ล สแตฟฟอร์ด, แฮร์รี ไอ. มาร์ติน จูเนียร์, ชาร์ลส์ ซาวัวร์ โบแนน, ฟิล์ม พาร์ทเนอร์ส   และ เอไอ ฟิล์ม

The Butler

The Butler

ซิสกิน หมายตา  แดเนียลส์  ให้กำกับโปรเจ็กต์นี้ เขาเพิ่งประสบความสำเร็จมาจาก PRECIOUS ภาพยนตร์รางวัล ออสการ์ของเขา   เมื่อ SALMA ภาพยนตร์ที่แดเนียลส์ถูกวางตัวให้กำกับถูกยกเลิกไป เขาก็สามารถเซ็นสัญญากับซิสกินแทนได้ ความเชี่ยวชาญของเขาในแวดวงภาพยนตร์อินดี้เป็นประโยชน์ในการระดมทุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย แดเนียลส์ และ ซิสกิน ร่วมด้วย แพม วิลเลี่ยมส์ หุ้นส่วนการอำนวยการสร้างของเธอ    ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาโปรเจ็กต์นี้     แม้ระหว่างที่เธอป่วยด้วยโรคมะเร็งมากขึ้นเรื่อยๆ   จนเมื่อ ซิสกิน เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าในเดือนมิถุนายน ปี 2011 วิลเลี่ยมส์ ก็รับช่วงต่อในการนำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สมเร็จขึ้นสู่จอเงินให้ได้ตามความตั้งใจ

ฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์  และ โอปราห์ วินฟรีย์   เป็นคู่ถัดไปที่เซ็นสัญญารับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้โดยมี  เดวิด โอเยลโลโอ มารับบทเป็น หลุยส์ ลูกชายนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรง นอกจากนี้ยังมีทีมนักแสดงทที่ตบปากรับคำเข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกมากมาย อาทิ  ยาย่า อลาเฟีย, มารายห์ แครี่ย์, จอห์น คูแซ็ค, เจน ฟอนดา, คิวบา กู๊ดดิ้ง จูเนียร์, เทอร์เรนซ์ โฮเวิร์ด, เอไลยาห์ เคลลี่ย์, มินก้า เคลลี่ย์, เลนนี่ คราวิทซ์, เจมส์ มาร์สเดน, อเล็กซ์ เพ็ตติเฟอร์, วาเนสซ่า เกรดเกรฟ, อลัน ริคแมน, ลีฟ ชไรเบอร์   และ โรบิน วิลเลี่ยมส์    นักแสดงหลายคนยินดีที่จะรับค่าตัวที่น้อยกว่าปกติและบางคนถึงกับยกเลิกตารางทัวร์ต่างๆ ที่มีก่อนหน้านี้เพื่อร่วมถ่ายทำในภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เสร็จสมบูรณ์

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายอย่างเป็นทางการในบ้านเราวันที่ 10 ตุลาคมนี้ค่ะ

By… We Are Divas (Movie And Music Update)

Leave a comment